ROV : Zephys
"ไม่มีมนุษย์คนไหนหนีรอดเงื้อมมือของ Grim Reaper ได้" กลิ่นของความตายยังคงอบอวลอยู่ในโลกมนุษย์ นำทาง Zephys เทพแห่งความตายมาสู่โลก เขาสวมผ้าคลุมสีดำและเหวี่ยงเคียวอันโหดร้ายปลิดชีพมนุษย์ทั้งในโลกความจริงและโลกความตาย เทพตนอื่นมักคิดว่าหน้าที่ของ Zephys นั้นน่าเบื่อเพราะเขาต้องเหวี่ยงเคียวเกี่ยววิญญาณโดยปราศจากความผิดพลาดอย่างไร้ที่สิ้นสุด แต่น้อยคนนักจะรู้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโลกใต้พิภพมีการทำงานที่ซับซ้อน และไม่อาจยอมรับความผิดพลาดได้ การทำงานหนักของเขาช่วยให้ใต้พิภพอยู่ในระเบียบอย่างที่ควรจะเป็น
"ที่ใดมีเงาความตาย ที่นั่นจะมีเคียวของข้าอยู่"
ตำแหน่งและหน้าที่
- Zephys เป็นฮีโร่ประเภท Fighter กึ่ง Assassin ที่มีจุดเด่นด้านการป้อนดาเมจพร้อมกับทำ Crowd Control ไปด้วย เขาสามาถเข้าและออกไฟต์ได้อย่างรวดเร็ว สามารถไล่ฆ่า หนี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สกิลพาสซีพของเขา Deathless ทำให้เขาตายยากมาก เพราะมันจะลดความเสียหาย 1% ทุก ๆ พลังชีวิต 3% ที่หายไป สกิลแรกของเขา Final Rift นั้นทำดาเมจได้สองครั้ง และเป็น Crowd Control ในตัวเอง สามารถใช้ไล่ฆ่าและใช้หนีได้ สกิล Fatal Barrage ช่วยให้เขาเอาตัวรอดจากศัตรู และช่วยในการฟาร์มไปพร้อม ๆ กัน เพราะนอกจากจะทำดาเมจแล้ว มันยังฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัว Zephys จำนวนหนึ่ง อัลติเมตของเขา Death from Above นั้นนอกจากจะรุนแรงแล้ว ยังเป็น Crowd Control ที่ดีมาก สกิลนี้จะยกศัตรูในวงที่เขากระโดดใส่ให้ลอยขึ้นทั้งหมด แถมสกิลนี้ยังมีอนิเมชั่นการร่ายที่ไวมาก คือกดปุ๊ปออกเลย ศัตรูไม่ทันรู้ตัวแน่นอน
ราคา : 13888 ทองหรือ 270 คูปอง และสามารถซื้อในแพค ฮีโร่แพคเริ่มต้น 3 ตัว ราคา 890 คูปอง มี Alice / Chaugnar Zephys
Skill
ตารางแนะนำการอัพสกิลเบื้องต้น ผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์การเล่นของตนเอง!!
สกิล Passive : Deathless
- ลดความเสียหาย 1% ทุกครั้งที่พลังชีวิตของเขาลดลง 3% เป็นสกิลที่ดีมาก ๆ เพราะมันจะช่วยยื้อชีวิตในขณะที่ใกล้จะตายได้ซักหน่อยนึง เอาไว้หนีออกจากไฟต์ ดาเมจที่ลดลงดูผิวเผินเหมือนจะน้อย ถ้าพลังชีวิตลดไปมากกว่า 90% เมื่อไหร่ สกิลนี้จะลดดาเมจถึง 30% เลยทีเดียว ทำให้เขากลายเป้นแทงค์ขนาดย่อยที่มีโอกาสเสี่ยงตายทำให้เราใจเต้นได้เลยครับ
ตัวอย่างแสดงการทำงานของ Passive Zephys
ดาเมจเริ่มต้นที่กิ้งก่าโจมตีใส่เราคือ 148
พอเลือดลดไปซักพัก ดาเมจที่ทำใส่เราจะเหลือที่ 121 แล้ว
พอเลือดเราลดมากจนจะหมดหลอด ดาเมจที่ กิ้งก่าทำใส่เรามากกว่าคนทำเยอะมาก แต่ยิงได้แค่ 114 เท่านั้น ต่อฮิต
สรุป : จากการทดสอบดู การจะใช้ Zephys แท้งค์ในช่วงต้นเกมเป็นอะไรที่ดอเคน่าทำ แต่ถ้าเจอศัตรูประเภทดาเมจรุนแรงอย่าง Butterfly หรือ เมจดาเมจตอดวินาทีแบบ Kahlii / Aleister / Mganga นี่น่าจะถึงขั้นเงิบได้ครับ
สกิล 1 : Final Rift
- พุ่งไปด้านหน้า ทำดาเมจศัตรูที่ผ่านทางทั้งหมด การโจมตีครั้งต่อไปของเขาจะทำดาเมจเพิ่มขึ้นพร้อมสโลว์ศัตรู สกิลนี้เป็นสกิลหลักของ Zephys เลยก็ว่าได้ เพราะมันแรงที่สุด (ถ้าไม่นับอัลติเมต) ช่วยไล่ได้ ช่วยหนีได้ ความแรงของสกิลนี้แรงมาก เพราะถ้าคอมโบด้วยการ Auto attack 1 ครั้ง > Final Rift > Auto attack อีก 1 ครั้ง ในระยะเวลาที่รวดเร็วมาก ๆ นั่นก็เพียงพอต่อการฆ่าศัตรูบางตัวแล้ว
สกิล 2 : Fatal Barrage
- เมื่อกดใช้ Zephys จะแทงหอกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนหลายครั้งโดยการโจมตีแต่ละครั้งจะทำดาเมจกายภาพขั้นต่ำที่ 105 + ดาเมจกายภาพอีกมากเลยครับ รวมๆดาเมจต่อฮิต อยู่ที่ ซึ่งจะฟื้นฟูพลังชีวิตให้เขาด้วย
- คำเตือน : สกิลนี้เป็นสกิลต่อคอมโบที่ดีแต่ค่อนข้างใช้ยาก และมีจุดอ่อนเยอะ การที่จะไปยืนแทงหอกต่อหน้าศัตรูโดยที่ตัวเองยืนชะงัก นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี จึงต้องระวังในการใช้เป็นอย่างมาก
- แนะนำ : สกิลนี้จะดูดเลือด เฉพาะการทิ่มใส่ศัตรูที่เป็นฮีโร่เท่านั้น ถ้าทิ่มใส่ครีปธรรมดาจะไม่ดูดเลือดจ้า
ตีใส่ฮีโร่ปกติด้วยสกิลนี้ สามารถดูดเลือดได้รัวมากๆ !!
ใส่ครีปเดินเลนปกติก็ไม่มาสามารถดูดเลือด
การใช้สกิล 2 โจมตีครีปป่าก็ไม่สามารถดูดเลือดได้
การโจมตีสัตว์ใหญ่ก็เช่นกัน ไม่สามารถดูดเลือดจากสกิลได้
แม้จะเป็นการทิ่มใส่ทั้งครีปและฮีโร่แต่การดูดเลือดจะโฟกัสที่ดาเมจที่ทำบนฮีโร่เท่านั้น!
สกิล 3 : Death from Above
- กระโดดเข้าหาศัตรูอย่างรวดเร็ว ทำดาเมจและ Knock up ศัตรู สกิลนี้เป็นสกิลเด่นอีกสกิลของ Zephys สกิลนี้จะทำให้เขาเปิดไฟต์ได้ไว และออกจากไฟต์ได้อย่างรวดเร็ว แถมดาเมจกายภาพที่สร้างค่อนข้างรุนแรง เหมาะกับการพุ่งลงเพื่อยกศัตรูแล้วใช่ท่าแทงด้านหน้ารัวๆ เพื่อทำให้ศัตรูเลือดลดให้ไวที่สุด แล้วไล่ฆ่าแทน
- สกิลนี้มีจุดเด่นที่สามารถหยุดสกิลประเภทร่ายของศัตรูตัวอื่นได้อย่างอยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นอัลติเมทของ Gilder / Diao Chan / Aleister ยกเว้นอัลติของ Kahlii ที่ไม่สามารถหยุดเธอยิงได้ เพราะงั้นถ้าเจอกาลี พยายามฆ่าและวิ่งไล่จากด้านตรงข้ามเสมอๆ เพื่อป้องกันตนเอง
- แนะนำ : ระยะสกิลนี้กว้างมากพอที่จะกระโดดข้ามกำแพงต่างๆได้ เพื่อเอาตัวรอด ถ้าคับขันจริงๆแล้วยังไม่ได้ใช้อัลติเมท ให้ใช้เพื่อการหลบหนีได้ครับ
การออกไอเท็ม
การออกไอเท็มของ Zephys นั้นอยู่ที่สไตล์การเล่นของผู้เล่นล้วน ๆ เขาสามารถจะกลายเป็นนักฆ่าแสนโหดเหี้ยมก็ได้ หรือจะกลายเป็นไฟท์เตอร์แสนอึดที่สามารถยืนป้อนดาเมจไปเรื่อยก็ได้ เพราะงั้นทั้งสอง Build จะเน้นไปที่การมีดาเมจพอประมาณไม่ได้มากมาย เพื่อให้เขาสามารถทำดาเมจและยืนเพื่อให้ตัวดาเมจอื่นๆในทีมสามารถทำดาเมจได้แทน เพราะตัวเขา ทั้งพาสซ๊ฟ และ สกิลดูดเลือดเวลาทีมไฟต์ได้เปรียบมาก เขาต้องยืนนานอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าการคอมโบของเพื่อนกับเราจะเข้ากันได้ไหม ถ้าเพื่อนสามารถทำดาเมจทันเวลาก่อนเราเลือดลดจนวิกฤติได้ เราก้จะรอดแต่ถ้าเราตายแล้วเพื่อนยังเดินงอกแง่กอยู่ก็ทำใจครับ พยายามหาทางสู้ต่อไป ฮ่าๆ
ไอเทมสายนักฆ่า
- ในการเล่นสายนักฆ่านี้ ไอเท็มจะเทไปที่ดาเมจโดยตรงเลย จุดเด่นของสายนี้คือความรุนแรงของสกิล ที่โดนไปหนึ่งชุดไม่ตายก็กระอักเลือดแน่นอน แถมสกิลที่มีคูลดาวน์สั้นลงทำให้เขาสามารถเข้าออกไฟต์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แนะนำให้ออกไอเท็มแบบนี้ในเกมที่มีตัวชนแล้ว ในระหว่างเข้าปะทะให้เราอ้อมหลัง กระโดดเข้าไปหาแครี่อีกฝั่ง เก็บให้ได้และรีบวิ่งออกมาให้เร็วที่สุด ถือว่าภารกิจสำเร็จ
- สำหรับสายนี้ จะมีข้อจำกัด ของการแสดงผลสกิลและไอเทมดูดเลือดนะครับ คือ การดุดเลือดจากไอเทมปกติจะทำงานแค่การโจมตีปกติเท่านั้น ไม่ได้ทำงานร่วมกับสกิลอย่างสกิล 2 ที่ทิ่มไปข้างหน้าแล้วดูดเลือดจากฮีโร่รัวๆ คือ ดาเมจการดูดเลือดของสกิล 2 มีแค่ไหนมันก็จะดูดแค่นั้น จะไม่มีผลของการดูดเลือดจากไอเทม The Beast มาเสริม ครับ
การโจมตีปกติแล้วมีผลของไอเทมดูดเลือดจะอยู่ที่ 101 ที่เราสามารถดูดได้
แต่เมื่อใช้สกิล 2 ทิ่มไปรัวๆ จะไม่มีการแสดงผลของไอเทมดูดเลือดมาช่วย จะเป็นการดูดเลือดจากสกิลล้วนๆครับ
ไอเท็มสายไฟท์เตอร์กึ่งแท้งค์
การเล่นสายไฟท์เตอร์จะเป็นกึ่ง ๆ ระหว่างดาเมจและพลังป้องกัน เขาต้องคุมตัวเองให้สมดุลย์กับเกมมากที่สุด จุดมุ่งหมายในการเล่นสายนี้คือ เปิดการปะทะและยืนป้อนดาเมจในไฟท์ได้นานที่สุด พร้อมกับป้อน Crowd Control สร้างความได้เปรียบให้ทีมตัวเองในไฟท์ไปเรื่อย ๆ
แนะนำรูน
รูนแดง
- Lv.2 : Brute Force บวกทั้งพลังชีวิตและพลังโจมตีให้ตัวละคร แต่ค่าทั้งสองที่บวกให้ค่อนข้างน้อย ทางที่ดีใช้รูนเลเวล 3 ดีกว่า
- Lv.3 : Golden Body เหมาะสำหรับไฟท์เตอร์เกือบทุกตัวละคร เพราะนอกจากจะให้พลังชีวิตและเกราะแล้ว ยังให้ความเร็วในการโจมตีเพิ่มมาอีก 1% หากใส่ 10 ช่อง ก็จะเพิ่มทั้งหมด 10% เป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องความเร็วในการโจมตีได้ดี
รูนม่วง
- Lv.2 : Fury นั้นให้ความเร็วในการโจมตี อัตราคริติคอล ความเร็วในการเคลื่อนที่ แต่ให้เป็นจำนวนที่น้อยมาก ๆ ใส่ครบ 10 ชิ้นจะอยู่ราว ๆ อย่างละ 4-5% ทางที่ดีใช้รูนเลเวล 3 ดีกว่า
- Lv.3 : Assassinate ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีไว้เพื่อสังหาร รูนนี้บวกพลังโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่ หากใส่ครบ 10 ชิ้นจะได้ความเร็วในการเคลื่อนที่ 10% ซึ่งดีต่อช่วงเริ่มต้นมาก เพราะเราจะได้เปรียบในด้านการ Poke การไล่ การหนี
รูนเขียว
- Lv.2 : Potential ค่อนข้างดีในหมู่เลเวล 2 ด้วยกันเยอะ เพราะให้ทั้งพลังชีวิต ค่าฟื้นฟูพลังชีวิต และลดคูลดาวน์ แม้ค่าทั้งสามนี้จะให้มาในจำนวนที่น้อย แต่ถ้าใส่ครบ 10 ชิ้น เฉลี่ยแล้วดีกว่ารูนเกือบทุกรูนในเลเวล 2
- Lv.3 : Prowess รูนชนิดนี้จะบวกพลังชีวิตจำนวนมากและลดคูลดาวน์ด้วย ทำให้ช่วยอุดจุดอ่อนด้านคูลดาวน์ได้ กลายเป็นว่าเสริมความคล่องตัวให้ Zephys เข้าไปอีก
Challenger Spell ที่น่าใช้
หนีไม่พ้น Execute สุดหล่ออีกตามเคย เพราะการจะปิดการฆ่าในช่วงท้ายเกมนั้นเริ่มทำได้ยากยิ่งขึ้น การพก Execute ไปเพื่อปิดฉากก็คงดูดีไม่น้อย หรือว่าจะใช้กลางไฟต์เลยก็ได้ เป็นการสร้างความได้เปรียบให้เพื่อนร่วมทีม
Flicker นั้นก็ดีไม่แพ้กัน ถึงสกิลเข้าออกของ Zephys จะมีมากถึงสองสกิลแล้วก็ตาม การใส่ Flicker ไปเพิ่มนั้นก็ยังมีประโยชน์มากอยู่ดี ยิ่งเจอกับศัตรูประเภทที่รู้ทันเวลาเราใช้สกิลออกไปหมดแล้ว ถึงจะเข้ามาเปิดการปะทะให้เราไม่สามารถหนีได้ หากเรามี Flicker ติดตัวอยู่และเซอไพรซ์เขาโดยไม่ทันตั้งตัว แค่นี้ก็สามารถสลัดออกมาได้แล้ว
จุดแข็ง
- ความคล่องตัวสูงมาก มีทั้งสกิลกระโดด สกิลพุ่ง ทั้ง 2 สกิลสามารถเอาตัวรอดและเปิดการโจมตีได้ดี ขึ้นอยู๋กับสถานการณ์
- ดาเมจต้นเกม - กลางเกม สูงมาก เพราะสามารถทำ ดาเมจต่อวินาทีได้สูงจากสกิล 2
- อึดกว่าไฟท์เตอร์ทั่วไป ด้วยพาสซีฟที่เลือดลดยิ่งอึด
- เลเวลน้อยแต่สามารถ Solo กับมังกรได้ตั้งแต่เลเวล 5 โดยที่มีแค่รองเท้า และไอเทมเกราะเริ่มต้นแค่อันเดียว
เลเวลน้อย ของน้อยก็สามารถสู้กับ กิ้งก่ายักษ์ช่วยเพื่อนได้ทองและบัฟทั้งทีมได้ !!
จุดอ่อน
- ท้ายเกมดาเมจน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะดาเมจจากสกิลทิ่มก็ไม่ได้สูงมาก ผนวกกับฮีโร่ตัวอื่นๆมีสกิลที่รุนแรงขึ้นท้ายเกม ทำให้ท้ายเกมต้องมีเลือดเพื่อพยุงตัวเองในทีมไฟต์ให้ได้นาน
- ต้องอาศัยทีมพอสมควร เพราะไม่สามารถปิดการสังหารด้วยตนเองได้ในบางกรณี เช่นการเจอแทงค์หรือศัตรูที่วิ่งเร็วหนีไปได้ สกิลแดชก็คูลดาวน์พอตัว ไม่สามารถไล่ได้อะไรขนาดนั้น
ที่มา : http://www.mustplay.in.th/content/page/58890ab0d9d1d13c7e34a887
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น