เรื่องย่อ The Osiris Child: Science Fiction Vol 1

รูปภาพ
เรื่องย่อ The Osiris Child: Science Fiction Vol 1           Science Fiction Volume One: The Osiris Child โคตรคนผ่าจักรวาล เล่าเรื่องในโลกอนาคต สงครามระหว่างดวงดาวจะแปรเปลี่ยนไปอย่างเหนือจินตนาการที่คุณจะคาดถึง เมื่อมีบริษัทอย่าง EXOr ได้พัฒนาสิ่งมีชีวิตสายพันธ์ใหม่ เพื่อเป็นอาวุธในการล่าอาณานิคม แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดจนอาวุธชีวภาพสายพันธุ์ใหม่ได้หลุดรอดออกไป หน้าที่ปกป้องโลกให้พ้นภัยจากสัตว์ประหลาดจึงตกเป็นของ เคน ซอมเมอร์วิลล์ (แดเนียล แม็คเฟอร์สัน) นายทหารที่ทำงานให้แก่บริษัท EXOr และ ไซ ลอมบร็อก (เคลแลน ลุตซ์) อดีตนักโทษหนุ่มในการปกป้องโลกและช่วยเหลือลูกสาวของเคนให้ได้ นี่คือเรื่องราวในภาพยนตร์สุดล้ำ            สำหรับบทบาทของ ไซ ลอมบร็อก นั้น ได้นักแสดงหนุ่มมาดเท่ เคลแลน ลุตซ์ ที่เคยฝากผลงานเอาไว้ใน Vampire Twilight จนเรียกเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ทั่วโลก รวมถึงการแสดงนำในภาพยนตร์ The Legend of Hercules โคตรคนพลังเทพ ที่ได้รับกระแสชื่นชมเป็นอย่างมาก และเขายังได้ประชันบทบาทร่วมกับนักแสดงแอ็คชั่นอย่าง ซิลเวสเตอร์ สตอนโลน, เจสัน สเตแธม, อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์, แฮริสัน ฟอร์ด, เมล กิ๊

เทคนิคและการออกของ ROV : Van Helsing

ROV : Van Helsing
 
Realm of Valor เกม MOBA สุดร้อนแรงตัวใหม่จาก Garena ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเราเลยจะพามารู้จักกับฮีโร่สุดหล่ออย่าง Van Helsing  ฮีโร่สาย ADC ที่เราได้รับมาฟรีๆ เป็นตัวแรกกัน ว่าพี่เค้ามีความเก่งกาจยังไงบ้าง  เห็นหล่อๆ แบบนี้ ร้ายไม่ใช่เล่นเลยล่ะจ้า!
ตำแหน่งหลักและหน้าที่
Van Helsing เป็นฮีโร่ที่จัดอยู่ในกลุ่มแครี่ ซึ่งมีความสามารถในการทำดาเมจได้หนักหน่วงมากๆ อีกทั้งยังมีสกิลที่เพิ่มความเร็วในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้เค้าสามารถทำการ kite (ตอดศัตรูจากระยะไกล)  ได้ดีเพราะสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้รวดเร็วจากผลของสกิลแทบจะทุกท่าของเค้า อีกทั้งยังมีท่าที่สามารถทำให้ศัตรูสตั๊นได้ถึง 2 สกิลด้วยกันคือ  Pocket Glaive และ Curse of Death ส่วนเลนที่ไปนั้น เค้าสามารถไปได้ทั้งเลนคู่และเลนเดี่ยว แต่จะให้ดีไปกับเพื่อนที่มีสกิล หยุดศัตรูด้วยอีกแรงจะทำให้เก็บแต้มได้ง่ายขึ้นมาก

Skills : อ้างอิงจากเลเวล 1
ตารางแนะนำการอัพสกิลเบื้องต้น ผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ตนเอง และสถานการณ์เกมนั้นๆเลยจ้า
การอัพสกิลและคอมโบ : ในช่วงแรกเลยนั้นผมแนะนำให้อัพสกิล Curse of Death ก่อนเพื่อที่จะเอาไว้ป้องกันตัวเอง กรณีที่เจอเหตุไม่คาดฝัน และตามด้วย Bloody Hunt ที่เอาไว้ทำดาเมจใส่ศัตรูเพิ่มเติม จุดสำคัญที่ควรรีบอัพ Curse of Death ให้เต็มก่อนก็เพื่อลดคูลดาวน์ของสกิลด้วยนั่เนองครับ เพราะในไฟต์นั้น เรามักที่จะโดนเล็งเป็นเป้าหมายแรกๆ ส่วนของการคอมโบนั้นผมแนะนำว่าให้ เปิดด้วย Bloody Hunt  > Curse of Death > โจมตีปกติ > Bullet Storm  มีเทคนิคเล็กน้อยคือในระหว่างที่ใช้สองสกิลแรก เราพยามเข้าประชิดอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด จากผลของสกิลติดตัว เพื่อที่จะได้ใช้ Bullet Storm ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ  (ยิ่งโดนหลายนัดยิ่งแรง)  หรือถ้าหากว่าเราสามารถหาดาวกระจายสีเหลืองได้ จะใช้เปิดนำ Bloody Hunt ก็ไม่เลวนะครับ 
Bullet Storm จะรุงแรงมากๆ หากเรายิงในระยะใกล้ เพราะศัตรูจะโดนกระสุนของเราหลายนัด

สกิล Passive : Pocket Glaive
  • เป็นสกิลหลักและเป็นจุดเด่นของ ตัวละครตัวนี้เลยล่ะครับ โดยทุกๆ การโจมตี 3 ครั้งเราจะสุ่มหอกออกมา  โดยจะมีเอฟเฟ็กต์ 3 แบบด้วยกันคือ สีเหลืองทำให้ศัตรูสตั๊น, สีแดงสร้างความเสียหายให้ศัตรูและตัวรอบๆ เป็นเวท , สีฟ้าสร้างความเสียหายเป็นเวทใส่เป้าหมาย
หอกสีแดงสามารถใช้เคลียร์คลีปตอนต้นเกมได้ดีมากๆ 
สกิล 1 : Bloody Hunt
  • สกิลล็อกเป้าหมาย ที่มีระยะการใช้งานไกลพอสมควร เป็นท่าที่ใช้ตอดเล็กตอดน้อยศัตรูได้ดีมาก อีกทั้งยังเร่งความเร็วของเราเพิ่มขึ้นมาระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เราสามารถที่จะใช้ไล่กวดฮีโร่อีกฝ่ายที่กำลังหนีได้ด้วย ถ้าหากว่าเราจะใช้ไล่ศัตรูล่ะก็ อาจจะใช้สกิลนี้ยิงคลีป และเร่งความเร็วเพื่อไปใช้สกิลอื่นๆ กับศัตรูต่อก็ได้ครับ  อีกนิดนึงคือสกิลนี้จะมีความแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามดาเมจกายภาพของเรา ซึ่งมี % ที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นหากใครที่ชอบสกิลตอดหนักๆ จะเน้นมาอัพสกิลนี้ก่อนก็ไม่ว่ากันนะครับ สำหรับดาเมจตั้งต้นของสกิลนี้จะอยู่ที่ 190 หน่วยในเลเวลแรกครับ 
สกิล 2 : Curse of Death
  • สกิลล็อกเป้าหมายอีกเช่นกัน ซึ่งมีวิธีการใช้ง่ายมากๆ เล็งตัวไหนโดนตัวนั้น(ถ้าอยู่ในระยะ) แถมระยะยังไกลพอสมควรเลยด้วย ที่สำคัญคือหลังจากการใช้งานแล้ว จะทำให้ศัตรูติดสตี๊นรวมถึงทำให้อัตราการเคลื่อนที่ของเราเพิ่มขึ้นระยะเวลาหนึ่ง นับว่าเป็นสกิลสารพัดประโยชน์มากๆ ทั้งการใช้ไล่ฆ่าศัตรู หรือการหนีเอาตัวรอด รวมไปถึงใช้ป้องกันตัวจากพวกตัวที่จะมาล้วงฆ่าเราด้วย  สำหรับดาเมจในตอนแรกจะอยู่ที่ 150 และจะบวกเพิ่มไปเรื่อยๆ ตามพลังโจมตีของเรา (แต่สเกลของสกิลนี้จะน้อยกว่า Bloody Hunt พอดูเลยครับ)
  • Note : ดาเมจของสกิล Curse of Death อาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เป็นสกิลที่ทำให้เราสามารถเอาตัวรอดได้ทั้งเกม ผมจึงแนะนำให้อัพเต็มไปก่อน เพื่อที่จะลดคูลดาวน์ให้ใช้ได้ไวที่สุดครับ (แต่หากคิดว่าไม่ค่อยได้ใช้จะหันไปอัพสกิลอื่นก่อนก็ได้) 
 
สกิล 3 Ultimate : ฺBullet Storm
  • สกิลอัลติเมทที่มีระยะกว้างมากๆ และสามารถใช้เก็บครีปได้ไวสุดๆ การจะใช้ให้ได้มีประสิทธิภาพนั้น เราควรใช้สกิลนี้จ่อไปที่ฮีโร่หรือคลีปที่ต้องการโจมตีไปเลย เพราะยิ่งโดนกระสุนมากเท่าไหร่ ผลของสกิลก็จะยิ่งมากเท่านั้นครับ 
  • Note: ในช่วงแรก Bullet Storm เป็นสกิลที่ดีมากๆ ในการกดดันฮีโร่ศัตรูต้นเกม โดยเฉพาะหากยิงในระยะประชิด แต่ในช่วงหลัง การจะยิงให้แรง เราต้องเข้าไปเสี่ยงในระยะปะทะมากเกินไป และอาจโดนรุมเก็บได้

 ภาพซ้ายคือดาเมจที่ได้จากการยิงในระยะประชิด ส่วนขวาคือดาเมจจากการยิงระยะไกล

การออกไอเทม
  • ไอเทมของ Van Helsing จะเน้นไปที่โจมตีกายภาพและความเร็วในการโจมตีเป็นหลัก เพราะสกิล Passive ของเขานั้นต้องอาศัยการโจมตีที่เร็ว จึงจะสามารถใช้ได้บ่อย โดยผมแนะนำให้ออกดาเมจนำแล้วตามด้วย ความเร็วในการโจมตีแต่ก็อย่าลืมออกรองเท้ากันด้่วยล่ะ เพราะไม่อย่างนั้นการ kite ศัตรูในตอนต้นเกมจะทำได้ลำบากมาก 
  • ไอเทมในชุดนี้เป็นไอเทมที่แนะนำให้ออกในสถานการณ์ ปกติ ซึ่งแต่ละคนอาจจะออกแบบอื่นก็ได้แล้วแต่ความชอบและความถนัดครับ โดยไอเทม The Beast จะช่วยให้เรายืนในเลนได้นานขึ้นโดยไม่ต้องกลับบ้านบ่อยๆ แต่หากเราคิดว่าไม่มีปัญหาเพราะไม่ค่อยได้ปะทะ อาจะข้ามไปออกไอเทมดาเมจชิ้นอื่นเลยก็ได้ อะไรแบบนี้เป็นต้น 
ไอเทมตามสถานการณ์
  • กรณีที่เราเจอกับสถานการณ์ต่างๆ ไอเทมเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างดี ในการใช้งาน ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูกันครับ 
 
Spear of Longinus จะทำให้เราสามารถลดเกราะของเป้าหมายได้มหาศาล ทำให้เราและเพื่อนในทีมสามารถจัดการเป้าหมายได้ง่ายขึ้นมากๆ 
ขวานที่ช่วยในเรื่องของเลือด ซึ่งหากเราตายบ่อยๆ ในการไฟต์ การออกไอเทมชิ้นนี้จะช่วยได้เยอะเลยทีเดียวครับ
ไอเทมที่เหมาะกับการเอาไปเจาะแท้งหนาๆ เป็นอย่างยิ่ง และด้วยความที่มัน + ความเร็วการโจมตีด้วย ทำให้เหมาะกับสกิล Passive ของตัวละครนี้มากๆ 
ไอเทมยอดนิยมอีกชิ้นนึงที่น่าหยิบมาใช้ เพราะมันช่วยให้เรารอดตายจากสถานการณ์ล่อแหลมได้ดีมากๆ และยังเพิ่มค่าเจาะเกราะให้เราอีกถึง 45% งานนี้แท้งหน้าหงายแน่นอน 

แนะนำรูน
  • รูนของตัวละครนี้ ผมขอแนะนำให้เน้นไปที่รูนที่เกี่ยวกับพลังโจมตี หรือความเร็วในการโจมตีครับ และอาจจะแทรกดูดเลือดเข้าไปเล็กน้อย เพือที่จะทำให้อยู่ในเลนได้นานขึ้น โดยรูนที่แนะนำจะมีดังต่อไปนี้
  • รูนสีแดง
  • รูนแดงที่เหมาะกับตัวละครนี้คือ Sword ที่ + พลังโจมตีให้เราถึงชิ้นละ 3.2 หรือถ้าใครที่ชอบเจาะเกราะไปด้วยอาจจะเปลี่ยนเป็น Onslaught ที่ได้ทั้งค่าเจาะเกราะและพลังโจมตี สุดท้ายที่อยากจะแนะนำคือ Bloodlust ที่จะทำให้เราได้ค่าดูดเลือดด้วยครับ ซึ่งจะใช้ชิ้นไหนนั้นหลักๆแล้ว จะอยู่กับรูปแบบการเล่นของเราและทีมเสียมากกว่า 

รูนสีม่วง
  • สำหรับรูนสีม่วงนี้เราอาจจะเสริมจุดเด่นของ Van Helsing ให้ดียิ่งขึนด้วยรูน Assassinate ที่นอกจากจะได้พลังดจมตีแล้ว ยังได้ความเร็วในการเคลื่อนที่ด้วย เอาไว้ใช้ในการ kite ได้ดีมาก หรือถ้าใครอยากเล่นแบบเน้นยืนเลนนานๆ อาจจะใส่รูน Essence Reaver เอาไว้ดูดเลือดก็จะทำให้เรายืนในเลนได้นานขึ้นพอดูเลยล่ะครับ ซึ่งเราอาจจะใส่ผสมๆ กันก็ได้นะ ไม่ต้องใส่แค่แบบเดียว 
 
 

รูนสีเขียว
  • ส่วนรูนเขียวที่ดูแล้วเหมาะสุดสำหรับฮีโร่ตัวนี้จะขอแนะนำเป็น  Dragon's Claw  ที่จะทำให้เราได้ค่าเจาะเกราะถึง 6.4 และยังได้พลังโจมตีอีกนิดหน่อยด้วย 


Challenger Spell ที่น่าใช้
  • Van Helsing มักจะโดนเล็งเป้าก่อนเป็นตัวแรกๆ ดังนั้น Challenger Spell ที่แนะนำให้ใช้จึงเป็น Spell ที่เอาไว้ใช้เอาตัวรอดเป็นส่วนใหญ่ครับ 
 สกิลพื้นฐานอย่าง Sprint นี่ทำให้ผมสามารถเอาตัวรอดมาได้นักต่อนักแล้ว อีกทั้งยังใช้ไล่ฆ่าได้ดีมากๆ ด้วย
 อีกหนึ่งสเปลแนะนำ อย่าง Roar ที่จะทำให้ตัวเราตีไวขึ้นมากๆ ส่งผลให้สกิล Passive ออกบ่อยขึ้นครับ

Purify จะทำให้เราสามารถล้างสถานะผิดปกติ ที่โดนอยู่ทั้งหมดได้ ทำให้สามารถวิ่งหนีได้อย่างสวยๆ 

Flicker เป็นสกิลที่ทำให้เราหนีออกจากวงล้อมของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว ซึ้่งน่าหยิบมาใช้ไม่น้อยเลยล่ะครับ ถึงแม้ว่าคูลดาวน์จะนานไปนิด แต่ถ้าใช้ดีๆ รับรองว่าช่วยให้รอดได้แน่ๆ 
จุดแข็ง
  • เป็นแครี่ที่ครบเครื่อง มีทั้งท่าสตั๊น และเร่งความเร็ว ทำให้เค้าโดนฆ่ายาก
  • Van Helsing เป็น ADC แครี่ที่เก่งมากๆ ในช่วงต้นเกม สกิลของเค้าสามารถใช้คุมเลนได้ดีมาก
  • มีท่าหยุดศัตรูถึงสองท่าด้วยกัน 
  • ได้ฟรีไม่ต้องซื้อ
จุดอ่อน
  • ฮีโร่ตัวนี้เก่งในช่วงต้นเกม-กลางเกม หากเราไม่สามารถกดดันศัตรูช่วงต้นเกมได้ อาจจะลำบากในช่วงท้ายเกม
  • ท่า Ultimate ไม่ค่อยมีประโยชน์ในช่วงท้ายเกม
  • สกิล Passive ต้องใช้ดวงค่อนข้างมาก
ที่มา : http://www.mustplay.in.th/content/page/5862de7853caad786605b733

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สูตร Pokemon Emerald (ENG)

สูตร Pokemon Fire Red/Leaf Green (JAP)

สูตร GTA San Andreas ของ PS2